เมนู

17. อรรถกถาธัมมาเถรีคาถา


คาถาว่า ปิณฺฑปาตํ จริตฺวาน เป็นต้น เป็นคาถาของพระเถรีชื่อ
ธัมมา.
แม้พระเถรีองค์นี้ก็ได้สร้างสมบุญบารมีไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ
สั่งสมกุศลที่เป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานไว้ในภพนั้น ๆ ได้รวบรวมบุญสมภาร
ไว้แล้ว ในพุทธุปปาทกาลนี้ บังเกิดในเรือนตระกูล กรุงสาวัตถี เจริญวัยแล้ว
ไปสู่เรือนของสามีที่สมควรกัน ได้ศรัทธาในศาสนาของพระศาสดา ประสงค์
จะบวชแต่สามีไม่อนุญาต ภายหลังเมื่อสามีตายแล้ว บวชเจริญวิปัสสนา วัน
หนึ่งเทียวภิกขาจารแล้ว กำลังเดินมาวิหารหกล้มลง จึงทำเรื่องนั้นแหละเป็น
อารมณ์เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลาย ได้กล่าว
คาถานี้เป็นอุทานว่า
เราทุพพลภาพ มีกายสั่นเทา ถือไม้เท้าเที่ยว
บิณฑบาต ได้ล้มลงบนแผ่นดินตรงนั้นเอง ครั้งนั้น
จิตของเราหลุดพ้นแล้ว เพราะเห็นโทษในกาย

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปิณฺฑปาตํ จริตฺวาน ฑณฺฑมาทาย
ทุพฺพลา
ความว่า ใช้ไม้เท้าค้ำยันเที่ยวไปในเมืองเพื่อต้องการบิณฑบาตคือ
เที่ยวภิกขาจาร. บทว่า ฉมา ได้แก่ บนแผ่นดิน คือพื้นดิน อธิบายว่า
ล้มลงบนพื้นดิน เพราะเท้าทั้งสองไม่มีกำลัง. บทว่า ทิสฺวา อาทีนวํ กาเย
ความว่า เห็นโทษในสรีระโดยประการต่างๆ มีไม่งาม ไม่เที่ยง เป็นทุกข์
เป็นอนัตตาเป็นต้น ด้วยปัญญาจักษุ. บทว่า อถ จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม ความว่า
จิตของเราหลุดพ้นแล้วจากกิเลสทั้งหลาย เพราะข่มไว้ด้วยนิพพิทานุปัสสนา

เป็นต้น ที่เป็นไปข้างหน้าด้วยอาทีนวานุปัสสนา ชื่อว่าหลุดพ้นแล้ว คือพ้น
วิเศษแล้วโดยประการทั้งปวง ด้วยสมุจเฉทวิมุตติตามลำดับมรรคผล และด้วย
ปฏิปัสสัทธิวิมุตติอีก. อธิบายว่า บัดนี้ สิ่งที่จะต้องหลุดพ้นไม่มีแก่พระเถรีนั้น.
อนึ่ง การกล่าวคาถาเป็นอุทานนี้แหละ เป็นการพยากรณ์พระอรหัตผลของ
พระเถรีนั้นแล.
จบ อรรถกถาธัมมาเถรีคาถา

18. สังฆาเถรีคาถา


[419] ข้าพเจ้าละเรือน ละบุตรและสัตว์เลี้ยง ซึ่ง
เป็นที่รัก บวชแล้ว ละราคะและโทสะและสำรอก
อวิชชาเสีย ถอนตัณหาขึ้นพร้อมทั้งราก เป็นผู้สงบ
ระงับดับสนิทแล้ว.

จบ สังฆาเถรีคาถา

18. อรรถกถาสังฆาเถรีคาถา


คาถาว่า หิตฺวา ฆเร ปพฺพชิตฺวา เป็นต้น เป็นคาถาของพระ
เถรีชื่อสังฆา.
เรื่องของพระเถรีชื่อสังฆานั้น เหมือนเรื่องของพระเถรีชื่อธีรา ก็พระ
เถรีชื่อสังฆานั้นบรรลุพระอรหัตแล้ว ได้กล่าวคาถาว่า